Logo
16 ม.ค. 2025

การแก้ไขปัญหาที่มีประสิทธิผลสำหรับ ‘ข้อผิดพลาดตัวเล่นเสียง: กรุณารีสตาร์ทคอมพิวเตอร์’ บน Windows

Post by Seraphiel

บทนำ

ปัญหาเสียงอาจน่าหงุดหงิด โดยเฉพาะเมื่อคุณกำลังทำงานสำคัญหรือเพลิดเพลินกับสื่อที่คุณชื่นชอบ หนึ่งในปัญหาที่พบได้บ่อยสำหรับผู้ใช้ Windows คือข้อความ ‘Audio Renderer Error: Please Restart Computer’ ปัญหานี้สามารถขัดจังหวะการเล่นเสียงของคุณในเว็บเบราว์เซอร์ เครื่องเล่นมีเดีย และแม้กระทั่งการประชุมวิดีโอด้วย โชคดีที่มีหลายวิธีที่สามารถช่วยคุณแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างรวดเร็ว

ในคู่มือนี้ เราจะสำรวจถึงสาเหตุต่าง ๆ ที่อยู่เบื้องหลังข้อผิดพลาดของตัวสร้างเสียง และนำคุณผ่านวิธีการแก้ไขทีละขั้นตอน ไม่ว่าจะเป็นการรีสตาร์ทง่าย ๆ หรือการแก้ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น ด้วยการทำตามคำแนะนำเหล่านี้ คุณจะสามารถเพลิดเพลินกับเสียงที่ไม่ถูกขัดจังหวะอีกครั้ง

ทำความเข้าใจกับข้อผิดพลาด Audio Renderer

‘Audio Renderer Error: Please Restart Computer’ มักเกิดขึ้นเมื่อมีความขัดแย้งระหว่างไดรเวอร์เสียงหรือปัญหาภายในระบบปฏิบัติการ ข้อผิดพลาดนี้สามารถเกิดขึ้นในแอปพลิเคชันและอุปกรณ์ต่าง ๆ ทำให้ค่อนข้างสับสน

สาเหตุหลัก ๆ อาจมาจากไดรเวอร์เสียงที่ล้าสมัยหรือเสียหาย การตั้งค่าเสียงไม่ถูกต้อง หรือการอัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุดที่ทำให้เกิดความไม่เข้ากัน การทำความเข้าใจสาเหตุที่เป็นไปได้เหล่านี้สามารถช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

การแก้ไขปัญหาเบื้องต้นสำหรับลองใช้

เมื่อคุณพบข้อผิดพลาดของตัวสร้างเสียง ให้เริ่มต้นด้วยการแก้ไขที่ง่ายและรวดเร็วเหล่านี้:

การรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

  • บางครั้ง การรีสตาร์ทง่าย ๆ สามารถแก้ไขความขัดแย้งของระบบต่าง ๆ รวมถึงปัญหาเสียง การรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์จะรีเฟรชระบบและสามารถล้างข้อบกพร่องเล็กน้อยได้

การเชื่อมต่อหรือตรวจสอบอุปกรณ์เสียง

  • ถอดและเสียบอุปกรณ์เสียง เช่นหูฟังหรือลำโพงภายนอกอีกครั้ง หากเป็นไปได้ ให้ลองใช้อุปกรณ์เสียงเอาต์พุตอื่นเพื่อดูว่าปัญหายังคงมีอยู่หรือไม่

การรีเซ็ตบริการเสียงใน Windows

  1. กด Win + R เพื่อเปิดกล่องโต้ตอบ Run
  2. พิมพ์ services.msc แล้วกด Enter
  3. ค้นหาและรีสตาร์ทบริการ ‘Windows Audio’ และ ‘Windows Audio Endpoint Builder’

การแก้ไขไดรเวอร์และซอฟต์แวร์

หากการแก้ไขเบื้องต้นล้มเหลว ก็ถึงเวลาตรวจสอบไดรเวอร์เสียงและซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง

การอัปเดตหรือติดตั้งไดรเวอร์เสียงใหม่

  • เปิด Device Manager
  • ขยายส่วน ‘Sound, video and game controllers’
  • คลิกขวาที่อุปกรณ์เสียงของคุณและเลือก ‘Update driver’
  • หากไม่สามารถทำได้ คุณสามารถถอนการติดตั้งไดรเวอร์แล้วรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์เพื่อให้ Windows ติดตั้งใหม่

การคืนค่าไดรเวอร์เป็นเวอร์ชันก่อนหน้า

  • ใน Device Manager คลิกขวาที่อุปกรณ์เสียงของคุณ
  • เลือก ‘Properties’ แล้วไปที่แท็บ ‘Driver’
  • คลิก ‘Roll Back Driver’ หากมีตัวเลือกนี้

การอัปเดต Windows และซอฟต์แวร์อื่น ๆ

  • เปิด Settings > Update & Security > Windows Update
  • ตรวจสอบการอัปเดตและติดตั้งการอัปเดตที่มีอยู่
  • ตรวจสอบให้แน่ใจว่าซอฟต์แวร์อื่น ๆ เช่นเว็บเบราว์เซอร์หรือเครื่องเล่นมีเดียมีการอัปเดตเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาความไม่เข้ากัน

การปรับแต่งการตั้งค่าเสียง

บางครั้ง การตั้งค่าเสียงที่ไม่ถูกต้องหรือขัดแย้งกันสามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดของตัวสร้างเสียงได้

การปิดการใช้งาน Exclusive Mode

  1. คลิกขวาที่ไอคอนลำโพงในทาสก์บาร์แล้วเลือก ‘Sounds’
  2. ไปที่แท็บ ‘Playback’ เลือกอุปกรณ์เสียงของคุณแล้วคลิก ‘Properties’
  3. ภายใต้แท็บ ‘Advanced’ ยกเลิกการเลือก ‘Allow applications to take exclusive control of this device’

การกำหนดรูปแบบเสียง

  • ในแท็บ ‘Advanced’ เดียวกันของคุณสมบัติอุปกรณ์เสียง ให้ลองเลือกอัตราตัวอย่างและความลึกบิตที่แตกต่างกันเพื่อดูว่าแก้ไขปัญหาได้หรือไม่

การจัดการอุปกรณ์การเล่นเสียง

  • ตรวจสอบให้อุปกรณ์การเล่นเสียงที่ถูกต้องตั้งค่าเป็นค่าเริ่มต้น โดยเฉพาะหากมีการเชื่อมต่ออุปกรณ์เสียงหลายตัว

เกิดข้อผิดพลาดของตัวสร้างเสียงกรุณารีสตาร์ทคอมพิวเตอร์

การแก้ไขแอปพลิเคชันเฉพาะ

แอปพลิเคชันต่าง ๆ อาจต้องการวิธีการแก้ไขเฉพาะเพื่อแก้ไขข้อผิดพลาดตัวสร้างเสียง

การแก้ไขสำหรับเว็บเบราว์เซอร์ (Chrome, Firefox)

  • ล้างแคชและคุกกี้
  • ปิดใช้งานเว็บเบราว์เซอร์ซอฟต์แวร์สำหรับเพิ่มเสียง
  • รีสตาร์ทเบราว์เซอร์

การแก้ไขสำหรับแอปพลิเคชันประชุมวิดีโอ (Zoom, Skype)

  • ตรวจสอบการตั้งค่าเสียงในแอปพลิเคชันเพื่อให้แน่ใจว่าเลือกอุปกรณ์ที่ถูกต้อง
  • รีสตาร์ทแอปพลิเคชันหรือติดตั้งใหม่หากจำเป็น

การแก้ไขข้อผิดพลาดในเครื่องเล่นมีเดียและเกม

  • ตรวจสอบการตั้งค่าเสียงของแอปพลิเคชัน
  • อัปเดตหรือติดตั้งแอปพลิเคชันใหม่

ขั้นตอนการแก้ปัญหาขั้นสูง

ถ้าคุณได้ลองทุกวิธีข้างต้นแล้ว ให้พิจารณาขั้นตอนการแก้ปัญหาขั้นสูง

การใช้ Safe Mode

  • การบูตใน Safe Mode สามารถช่วยระบุว่ามีแอปพลิเคชันหรือบริการของบุคคลที่สามทำให้เกิดข้อผิดพลาดหรือไม่
  • กด Win + R พิมพ์ ‘msconfig’ แล้วกด Enter
  • ภายใต้แท็บ ‘Boot’ เลือก ‘Safe boot’ แล้วรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ของคุณ

ตรวจสอบการขัดแย้งของฮาร์ดแวร์

  • ใน Device Manager มองหามีอุปกรณ์ที่มีเครื่องหมายอัศเจรีย์สีเหลืองแสดงการขัดแย้ง
  • แก้ไขการขัดแย้งของฮาร์ดแวร์โดยการอัปเดตหรือติดตั้งไดรเวอร์ใหม่

การรีเซ็ตการตั้งค่า BIOS/UEFI

  • บางครั้ง การรีเซ็ตการตั้งค่า BIOS/UEFI ให้เป็นค่าเริ่มต้นสามารถแก้ไขความขัดแย้งของฮาร์ดแวร์ที่มีผลต่อเสียงได้
  • เข้าสู่ BIOS/UEFI ขณะบูต (โดยปกติให้กด F2 Del หรือปุ่มคล้าย ๆ กัน) และมองหาตัวเลือกการรีเซ็ต

มาตรการป้องกัน

เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดของตัวสร้างเสียงในอนาคต ให้พิจารณามาตรการป้องกันเหล่านี้:

การอัปเดตระบบและไดรเวอร์อย่างสม่ำเสมอ

  • อัปเดตระบบปฏิบัติการและไดรเวอร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าเข้ากันและเสถียร

การใช้งานซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยที่เชื่อถือได้

  • ใช้ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสและแอนตี้มัลแวร์ที่น่าเชื่อถือเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่อาจทำให้เกิดปัญหาระบบ

หลีกเลี่ยงการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็น

  • จำกัดการติดตั้งซอฟต์แวร์ที่ไม่จำเป็นซึ่งอาจรบกวนการทำงานปกติของระบบของคุณ โดยเฉพาะแอปพลิเคชันที่เกี่ยวข้องกับเสียง

บทสรุป

การแก้ไข ‘Audio Renderer Error: Please Restart Computer’ บน Windows ต้องการการเข้าใจสาเหตุที่แท้จริงและการใช้วิธีการแก้ไขอย่างเป็นระบบ จากการรีสตาร์ทง่าย ๆ ไปจนถึงขั้นตอนการแก้ไขปัญหาขั้นสูง วิธีการเหล่านี้ควรช่วยให้คุณฟื้นฟูการทำงานของเสียงในระบบของคุณได้

คำถามที่พบบ่อย

ฉันควรทำอย่างไรหากการรีสตาร์ทคอมพิวเตอร์ไม่สามารถแก้ไขข้อผิดพลาดในการเรนเดอร์เสียงได้?

หากการรีสตาร์ทไม่ช่วย ลองอัปเดตหรือติดตั้งไดรเวอร์เสียงใหม่ ตรวจสอบการอัปเดตของ Windows และปรับการตั้งค่าเสียง

ปัญหาฮาร์ดแวร์สามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดในการเรนเดอร์เสียงได้หรือไม่?

ใช่ ปัญหาฮาร์ดแวร์หรือปัญหากับอุปกรณ์เสียงสามารถทำให้เกิดข้อผิดพลาดนี้ได้ ตรวจสอบในตัวจัดการอุปกรณ์เพื่อดูว่ามีคำเตือนเกี่ยวกับฮาร์ดแวร์หรือไม่และแก้ปัญหาเหล่านั้น

จำเป็นต้องอัปเดตไดรเวอร์ทั้งหมดเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาเสียงหรือไม่?

การอัปเดตไดรเวอร์เป็นประจำช่วยรักษาเสถียรภาพและความเข้ากันได้ของระบบ ลดโอกาสในการเกิดปัญหาเสียง ให้เน้นที่การอัปเดตไดรเวอร์เสียง ชิปเซ็ต และระบบ